เวลา 22.30 น. เจ๊อ้อยพร้อมทีมงานเดิน ออกมาจากลิฟท์ตึกกองปราบปรามโดยให้สัมภาษณ์สื่อสั้นๆ ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไปให้สุดซอย จากนั้นได้เดินขึ้นรถของตนออกจากกองปราบปรามออกไป
นางสาวจตุพร หรือเจ้อ้อย ยืนยัน ดำเนินคดีนายษิทรา หรือทนายตั้มถึงที่สุด หลังเข้าให้ปากคำตำรวจอีกครั้ง เกี่ยวกับเรื่องที่นาย นายปานเทพ ออกมาเปิดเผยข้อมูลเรื่องการทำพินัยกรรมให้ว่านายษิทรา ได้ใส่ชื่อตัวเองลงไปเป็นผู้จัดการมรดก ว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงหรือไม่
ภายหลังนางสาวจตุพร อุบลเลิศ เดินทางเข้าพบตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เข้าให้ปากคำกับตำรวจก่อนหน้านี้อ้างว่านายษิทรา ได้ใส่ชื่อตัวเองลงไปเป็นผู้จัดการมรดก เพื่อให้ตำรวจตรวจสอบว่าเข้าข่ายเป็นกระบวนการฉ้อโกงหรือไม่
การสอบปากคำนางสาวจตุพร ตำรวจใช้เวลานานกว่า 12 ชั่วโมง จนถึงช่วงเวลา 22.30 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา นางสาวจตุพร พร้อมผู้ติดตามอีก 3 คน เดินลงมาจากอาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสั้น ๆ ว่าจะเดินหน้าดำเนินคดีกับนายษิทราให้ถึงที่สุด พร้อมระบุว่าจะเดินทางกลับที่ประเทศฝรั่งเศสในวันนี้ พลตำรวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า กรณีเชิญนางสาวจตุพร มาให้ปากคำเพิ่มเติม มุ่งเน้นไปในเรื่องของตรวจสอบคำให้การก่อนหน้านี้ว่ามีส่วนใดขาดตกบกพร่อง
และเพื่อให้สำนวนการสอบสวนครบถ้วนสมบูรณ์ ส่วนประเด็นเรื่องการทำพินัยกรรมที่ให้นายษิทราเป็นผู้จัดการมรดกนั้น ในการสืบสวนที่ผ่านมาไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่วันนี้อาจสอบถามเพิ่มเติมว่า พินัยกรรมเกี่ยวข้องกับคดีในส่วนใดหรือไม่ ทั้งนี้ การเชิญให้ปากคำวันนี้มีเพียงนางสาวจตุพร ที่ตำรวจนัดหมายเพียงคนเดียวเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ กรุงเทพมหานคร