“เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ยังปังอย่างต่อเนื่อง เพราะตอนนี้ก็ยังมีเจ้าของแบรนด์ รวมไปถึงดารา – อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังไปรอไลฟ์ที่บ้านของเธออย่างต่อเนื่อง ทว่าก็มีดราม่าปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน อาทิ ก่อนหน้านี้ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล บอสใหญ่ของเวทีนางงามมิสแกรนด์ ที่ถึงกับนอยด์ เพราะเจ้าตัวมีคิวจะได้ขึ้นไลฟ์กับ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น แต่พอถึงเวลาจริงๆ กลับไม่ได้ไลฟ์ ต้องรอไป 5 – 6 ชม.
ล่าสุด บอสณวัฒน์ ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวแล้วว่า เรื่องไม่ได้ไลฟ์แล้วกลับออกมาก่อน คือไปถึงบ้านเจนนี่ ตั้งแต่ 4 ทุ่มกว่า แต่รอจนตี 1 ครึ่ง ยังไม่ได้ขึ้นไลฟ์ จึงตัดสินใจกลับ ซึ่งเหตุการณ์วันนั้นชุลมุนวุ่นวายมาก มีทั้งเอเจนซี่และแบรนด์เข้ามาพร้อมกันหลายสิบแบรนด์ บางคนไม่ได้รับการคัดกรองล่วงหน้า ทำให้เกิดความสับสนเรื่องคิว พร้อมยืนยันไม่ได้โกรธเจนนี่ เพราะเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และยังพร้อมซัปพอร์ต อีกทั้งยังให้กำลังใจ นอกจากนี้ยังโทรคุยกันในเช้าวันถัดมา
“ไม่ได้เสียใจกับเจนนี่ ไปรอตั้งแต่ 4 ทุ่มกว่า รอจนถึงตี 1 ครึ่ง ก็ไม่ไหว คิวเราจริงๆ ประมาณ 5 ทุ่ม ที่คุยกันไว้ แต่ก็เข้าใจและซัปพอร์ตเจนนี่ ผมก็แนะนำน้องไปหลายเรื่องเหมือนกัน วันนั้นเป็นวันที่ชุลมุนมาก ด้วยความที่เจนนี่เป็นคนที่ใจดีเกินไปปล่อยให้เอเจนซี่ไปรับงาน เจนนี่คิด 10 บาทแต่เอเจนซี่ไปบวกอีก 5 บาท เป็น15 บาท แล้วเขาไปขายได้มา 50 – 60 แบรนด์ แล้วจะมายัดให้เร็วที่สุด ซึ่งมันยากมาก ก็ไม่รู้ไปบอกยังไง แบรนด์มารอหน้าบ้านเต็มไปหมดว่างแล้วเข้า มันเลยกลายเป็นเละไปหมด
ส่วนดาราบางคนทำให้เห็นว่าบางทีก็ไม่แฟร์ต่อเจนนี่ การขายของเจนนี่ตอนนี้มันเป็นไปในลักษณะของความบันเทิงผสมขายของ ที่ผมทำกับหนุ่ม (กรรชัย กำเนิดพลอย) มันคือเล่นกันสนุก ก็จะเกิดไวรัล เกิดการซื้อขาย เกิดความสุขให้คนดู แต่จะมีดาราบางคนที่มากันเยอะ ปกติเขาจะให้บอกว่ามากี่คน มากสุดเขาก็ให้ 2 คน แต่นี่มาหมดเลย พูดไม่หยุดเกี่ยวกับสินค้า พูดไปเรื่อย ดันๆๆ พูดจนเจ้าของไลฟ์ต้องกระเถิบออกไปนั่งข้างๆ คนนี้ไลฟ์รัวหลายสินค้า หลายบริษัท เกิดเป็นปัญหาวุ่นไปหมด กินเวลาไปเรื่อยไปเปื่อย ผมก็ช่วยสแกน ช่วยสังเกตการณ์ให้น้อง คือมันเละไง
ต้องยอมรับบางอย่างอาจจะทำผิดกฎ TIKTOK ด้วย ตะกร้าบิน เห็นใจน้องนะ เช่น เขาห้ามโชว์แก้ว ห้ามพูดเกินจริง แล้วที่พูดว่าถ้าซื้อฉันจะเอาเงินไปทำบุญ มันไม่ได้ แล้วคนดูเขาก็ไม่ชอบอะไรแบบนี้ด้วย ยอดคนดูก็ลดลง ผมเห็นแล้วเลยคิดว่ากลับดีกว่า สถานการณ์คุมไม่อยู่ ความเครียดมันสูง เอนเตอร์เทนไม่เหลือ เจนนี่เหนื่อยมาก ผมสงสารน้อง ผมกับยิว (สามีเจนนี่) เราสนิทกันมาก ผมถีงบ้านตี 2 ยิวส่งข้อความมาคุยตลอด เหมือนเขาเสียขวัญและกำลังใจ ผมเลยบอกเขาให้ใจเย็นๆ ทำวันนี้ให้จบ”
ทั้งนี้ บอสณวัฒน์ ยังบอกอีกว่า “เห็นใจน้องเถอะ เพราะว่าปรากฎการณ์นี้บางคนไปต่อว่าน้องว่าพอมีโอกาสก็โกยเอาโกยเอา ถามว่าถ้ามันมีโอกาสใครไม่โกย มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ คนจะไปร่วมงานก็ต้องให้สิทธิ์เขาด้วย ไปบังคับเขาในฐานะเก๋ากว่า เป็นผู้ใหญ่ อยู่วงการมาเยอะกว่า น้องเขาก็เหนื่อย ผมเองบอกเขานะว่าพี่กลับก่อนแต่พี่ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะ พี่เห็นสถานการณ์พี่บอกเอาคนทางบ้านไปไลฟ์เลย พี่ไม่ได้มายด์ พี่ไปซัปพอร์ต
วันนั้นผมถือเงินสด 1.8 ล้านจะไปให้เขา เขายุ่งมากจนบอกพี่เอาเงินกลับไปก่อนนะ เพราะข้างล่างเละมาก เดี๋ยวหนูเอาเงินไปวางทิ้งตรงไหนไม่รู้อีก ผมแนะนำน้องว่าต้องวางระเบียบนิดนึง อย่าทำงานเยอะ ปริมาณไม่ต้องมาก ขอคลีนๆ เท่ๆ อย่าเกรงใจคน ชัดเจนว่าจบคือจบ และไม่มีการเอาการกุศลมาต่อรอง มันกินคิวคนอื่น แต่ฟีดแบ็กก็กลับไปที่คนทำนะ”
อย่างไรก็ตาม บอสณวัฒน์ ยังบอกอีกว่า “สภาพหมู่บ้านเจนนี่ตอนนี้เหมือนซ่องโจร สงสารหมู่บ้าน ที่จอดรถไม่มีเลย สภาพคนเหมือนคนมารอซื้อตั๋วหนัง มีคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการเยอะที่มารอถ่ายคลิปว่าใครมา ถ่ายจนเราเข้าบ้าน มันเป็นแบบนี้ไปแล้ว โชคดีที่ข้างบ้านไม่มีคนอยู่ ถ้ามีคนอยู่คนหนัก”