“โอ๊ตมิลค์” เครื่องดื่มของดีมื้อเช้า ดักจับคอเลสเตอรอลก่อนเข้าสู่เลือด แถมดีต่อหัวใจและสิ่งแวดล้อม
โอ๊ตมิลค์ ถือเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ หลายคนสามารถเลือกดื่มแทนนมวัว เพราะอุดมด้วย เบต้ากลูแคน (Beta-glucan) ซึ่งเป็นใยอาหารชนิดละลายน้ำได้ โดยใยอาหารชนิดนี้จะสร้างเนื้อเจลในระบบย่อยอาหาร ช่วยดักจับคอเลสเตอรอลและป้องกันไม่ให้ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง
ผลวิจัยล่าสุดยืนยันประสิทธิภาพโอ๊ตมิลค์ ว่าเครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยในมื้อเช้าอย่าง “โอ๊ตมิลค์” หรือ “นมข้าวโอ๊ต” อาจเป็นตัวช่วยสำคัญในการลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย โดยเฉพาะคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
โดยการศึกษาในผู้ชาย 66 คนที่มีภาวะคอเลสเตอรอลสูง พบว่าการดื่มโอ๊ตมิลค์วันละ 3 แก้ว (ประมาณ 750 มล.) ติดต่อกัน 5 สัปดาห์ ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลรวมลดลง 3% และ LDL ลดลง 5% นอกจากนี้ ยังมีการทบทวนงานวิจัย 58 ชิ้น พบว่าการรับประทานเบต้ากลูแคนประมาณ 3.5 กรัมต่อวัน เป็นเวลา 5-6 สัปดาห์ ช่วยลดระดับ LDL ลงได้ 4% และลดระดับ Apolipoprotein B ได้ 2% ซึ่งเป็นโปรตีนหลักของ LDL และเป็นตัวบ่งชี้ความเสี่ยงโรคหัวใจได้แม่นยำกว่าระดับ LDL เพียงอย่างเดียว
สอดคล้องกับงานวิจัยในปี 2018 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food and Function ซึ่งยังพบด้วยว่า การดื่มเครื่องดื่มจากข้าวโอ๊ตอาจให้ผลในการลดคอเลสเตอรอลที่ยาวนาน ยิ่งกว่าการรับประทานข้าวโอ๊ตแบบธรรมดาเสียอีก!
ไม่เพียงเท่านั้น นอกจากลดคอเลสเตอรอลแล้ว โอ๊ตมิลค์ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกมากมาย เช่น
. ช่วยย่อยอาหารและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากใยอาหารในโอ๊ตมิลค์ช่วยชะลอการดูดซึมคาร์โบไฮเดรต
. มีวิตามิน B, แคลเซียม, วิตามิน D และ A ซึ่งเสริมสร้างกระดูก
. มีโพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ซึ่งเป็นแร่ธาตุจำเป็นต่อร่างกาย
. มีไขมันอิ่มตัวต่ำกว่านมวัว และมีใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มนาน ควบคุมน้ำหนักได้ดี
. เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้แพ้นมหรือไม่สามารถย่อยแลคโตส
อย่างไรก็ดี แม้โอ๊ตมิลค์จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีบางประเด็นที่ควรระวัง โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์บางยี่ห้อที่อาจมีการเติมน้ำตาลในปริมาณสูง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ จึงแนะนำให้เลือกสูตรไม่เติมน้ำตาล นอกจากนี้ควรบริโภคโอ๊ตมิลค์ร่วมกับอาหารที่หลากหลาย เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และแหล่งโปรตีนไขมันต่ำ เพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน
หากคุณมีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาลดคอเลสเตอรอล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร โอ๊ตมิลค์บางยี่ห้ออาจไม่ได้รับรองว่า “ปราศจากกลูเตน” ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการแพ้กลูเตน ในขณะที่โอ๊ตมิลค์แบบทำเองที่บ้าน แม้จะเป็นทางเลือกที่ประหยัดและควบคุมส่วนผสมได้ แต่ก็มักไม่มีการเสริมวิตามินและแร่ธาตุเหมือนผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์
โอ๊ตมิลค์ยังมีปริมาณพลังงานและคาร์โบไฮเดรตสูงกว่านมอัลมอนด์ แต่ให้โปรตีนน้อยกว่านมวัวและนมถั่วเหลือง ซึ่งอาจส่งผลต่อความรู้สึกอิ่มและความสมดุลของสารอาหาร นอกจากนี้ไม่ควรใช้โอ๊ตมิลค์เป็นอาหารหลักแทนนมหรืออาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เพราะอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการด้านโภชนาการในการเจริญเติบโต
ท้านที่สุดอย่าลืมว่า แม้โอ๊ตมิลค์เป็นเครื่องดื่มทางเลือกที่มีประโยชน์ต่อหัวใจและสุขภาพโดยรวม โดยเฉพาะในเรื่องการลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี แต่การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพและบริโภคอย่างพอดี ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ หากกำลังมองหาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ครบคุณค่าทางโภชนาการ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โอ๊ตมิลค์อาจเป็นคำตอบที่ดีสำหรับคุณ